แจ้งการขึ้นทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ ปีงบประมาณ 2558
4 ตุลาคม 2556
การรับขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุเพื่อรับเงินเบี้ยยังชีพ
ตามนโยบายรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ 2558
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุ 59 ปี โดยเกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2496 (ในกรณีที่ในทะเบียนราษฎร์ ไม่ปรากฏวันที่และ/หรือเดือนเกิด ให้ถือว่าบุคคลนั้น เกิดในวันที่ 1 มกราคม) เนื่องจากเป็นการสำรวจล่วงหน้า
(3) ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ ข้าราชการบำนาญ ผู้ที่ได้รับเบี้ยยังชีพเดิม หรือผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน ที่เป็นรายได้ประจำจากหน่วยงานของรัฐ
ขั้นตอนในการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน
ให้ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นยื่นคำขอต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนเองมีชื่ออยู่ใน ทะเบียนบ้าน ระหว่างวันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน ของทุกปี และจะเริ่มได้รับเงินในเดือนตุลาคมปีถัดไป พร้อมนำหลักฐานต่อไปนี้
(1) สำเนาบัตรประชาชน
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน
(3) สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ธกส.สาขาท่าตะโก
กรณี ที่ผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ และไม่มีสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินแทน
หมายเหตุ โดย จะเริ่มได้รับเบี้ยยังชีพครั้งแรก ในเดือนตุลาคมของปีถัดไป เนื่องจากเป็นการสำรวจล่วงหน้า เพื่อตั้งงบประมาณในปีถัดไป และถ้าผู้สูงอายุย้ายทะเบียนบ้าน จะต้องไปลงทะเบียนตามภูมิลำเนาใหม่ และได้รับเงินจากที่เก่าจนครบ 1 ปี
การรับขึ้นทะเบียนผู้พิการเพื่อรับเงินเบี้ยยังชีพ
เพื่อดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ประจำปี 2558
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้พิการ
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีสมุดคู่มือคนพิการ
(3) มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขต ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
ขั้นตอนในการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน
ให้ผู้พิการที่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น ยื่นคำขอต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนเองมีชื่ออยู่ใน ทะเบียนบ้านระหว่างวันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน ของทุกปี พร้อมหลักฐานต่อไปนี้
(1) สำเนาบัตรประชาชน
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน
(3) บัตรคนพิการ
(4) สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ธกส. สาขาท่าตะโก
กรณี ที่ผู้พิการไม่สามารถมาลงทะเบียนได้และไม่มีสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินแทน
หมายเหตุ โดยจะเริ่มได้รับเบี้ยยังชีพผู้พิการครั้งแรกในเดือนตุลาคมของปีถัดไป เนื่องจากเป็นการสำรวจล่วงหน้า